ภูมิธรรม" คาดเคาะปรับ ครม."อุ๊งอิ๊งค์ 2" ภายในสัปดาห์นี้ พร้อมรับโผนั่ง มท.1-พาณิชย์

IQ > *"ภูมิธรรม" คาดเคาะปรับ ครม."อุ๊งอิ๊งค์ 2" ภายในสัปดาห์นี้ พร้อมรับโผนั่ง มท.1-พาณิชย์
Mon, 23 Jun 2025 11:44:06
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 มิ.ย. 2568)--
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า หลังจาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้หารือกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลเมื่อวานนี้แล้ว คาดว่าการแต่งตั้ง ครม.ชุดใหม่น่าจะจบได้เร็วภายในสัปดาห์นี้
"(เสถียรภาพรัฐบาล) มั่นใจ 100% เดินได้อย่างแข็งแรง หลังปรับครม.ภายในอาทิตย์นี้เสร็จเรียบร้อย ท่านจะเห็นการทำงานในมิติใหม่ที่ต่างไปจากเดิม" นายภูมิธรรม กล่าว
สำหรับโควต้าของพรรคเพื่อไทยนั้นจะมีความชัดเจนหลังจากสัดส่วนรัฐมนตรีของพรรคร่วมรัฐบาลแล้วเสร็จ ซึ่งเมื่อวานสัดส่วนรัฐมนตรีของพรรคร่วมรัฐบาลจบแล้ว ส่วนของพรรคเพื่อไทยคงเป็นขั้นตอนถัดไป แต่ปฏิเสธที่จะระบุว่าพรรคเพื่อไทยจะได้รับจัดสรรรัฐมนตรีกี่เก้าอี้ เนื่องจากเมื่อวานตนไม่ได้เข้าประชุมด้วย เพราะเป็นการประชุมเฉพาะหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค
สำหรับกระทรวงกลาโหมนั้น ขณะนี้ตนยังดูแลเหมือนเดิม ยังไม่ได้ถูกปลดออกจากตำแหน่ง โดยตนเป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ซึ่งคงมีกระทรวงมหาดไทยมาให้กำกับดูแลเพิ่มเติม
ส่วนกระแสข่าวที่จะย้ายไปดูแลกระทรวงมหาดไทยนั้น นายภูมิธรรม กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า ตนโดนโยกย้ายมาหลายกระทรวงแล้ว เมื่อวานเพิ่มเป็นกระทรวงมหาดไทย ก่อนหน้านี้ก็ไปอยู่กระทรวงพาณิชย์ บางข่าวก็ให้อยู่ที่เดิม (กระทรวงกลาโหม) ก็ยังไม่ชัดเจนต้องรอให้นายกรัฐมนตรีสั่ง
"ผมรักทุกกระทรวง" นายภูมิธรรม ตอบสื่อเมื่อถูกถามว่าชื่นชอบกระทรวงไหนที่สุด
ส่วนที่จะไปมอบนโยบายที่กระทรวงมหาดไทยจะถือโอกาสไปดูห้องทำงานด้วยหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน วันนี้ไปมอบนโยบายในฐานะที่กำกับดูแลกระทรวงมหาดไทย และไปประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอทั่วประเทศจึงถือเป็นโอกาสดีได้ไปคุยเพราะต้องทำงานกับกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรองนายกฯ อยู่แล้ว
นายภูมิธรรม กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยได้ดูแลกระทรวงมหาดไทยแล้วว่า เป็นกระทรวงที่ต้องนำนโยบายของรัฐบาลทั้งหมดไปผลักดันให้เกิดขึ้น ที่ผ่านมากลไกตรงนี้ไม่สมบูรณ์และเป็นอุปสรรคต่อการทำงานมาก เพราะฉะนั้นคราวนี้เชื่อว่า พรรคเพื่อไทยจะสามารถนำนโยบายไปสู่ประชาชนได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจฐานราก การปราบปรามยาเสพติดอย่างเข้มข้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของพัฒนาช่วยจัดการปัญหาชายแดน ซึ่งที่ผ่านมานโยบายที่ค้างอยู่ยังเดินได้ไม่สุด จึงเป็นเหตุที่พรรคเพื่อไทยอยากได้กระทรวงนี้กลับมา เพื่อหวังว่าจะสามารถเดินหน้าได้อย่างเต็มที่ ก็เชื่อมั่นจะทำได้ดี
โดยช่วง 2 ปีที่เหลือหลังจากนี้น่าจะพลิกฟื้นนโยบายได้มากขึ้น เพราะที่ผ่านผลักดันไม่ค่อยออก เพราะว่ากลไกมหาดไทยเป็นกลไกสำคัญที่สุดที่ผลักดันนโยบายออกไปในระดับจังหวัด อำเภอ หรือหมู่บ้าน
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่กังวลเรื่องนิติสงครามที่นายกรัฐมนตรีมีเรื่องคดีความอยู่ เพราะดูจากคดีที่มายื่นไม่มีเหตุผลหรือหลักฐานเพียงพอที่จะมาพูดได้ และหลายประเด็นที่ยื่นมายังไม่เห็นหลักฐานเลย บางคดีที่ยื่นมาก็ไม่ใช่ความผิดโดยตรงของนายกรัฐมนตรี และเวลาที่เหลือเป็นเวลาที่ต้องทำงาน และนายกรัฐมนตรีต้องการความเป็นเอกภาพของคนไทยทั้งหมด ถ้าเราสามารถร่วมมือกันได้ และเป็นเหตุผลหนึ่งที่พรรคร่วมรัฐบาลร่วมกันเดินหน้าต่อไป
นายภูมิธรรม กล่าวถึงกรณีหากศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่จะมีผลต่อการขับเคลื่อนรัฐบาล หรือจะซ้ำรอยกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ว่า มันคนละเรื่อง ไม่ใช่แบบเดียวกับกรณีนายเศรษฐา คนละประเด็นกัน และเรื่องนี้เป็นธรรมดาที่ สว.ต้องแก้เกี้ยว หรือต้องหาทางปกป้องตัวเองก็ถือเป็นสิทธิ์ แต่นายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ก็ฟ้องกันไป ซึ่งรัฐบาลก็ชี้แจงไปตามข้อเท็จจริง
ในส่วนกระทรวงกลาโหมและกองทัพทั้ง 4 เหล่าทัพมีความเป็นเอกภาพ ส่วนภาพที่ออกมาเห็นเหมือนกับว่า กองทัพสั่งแต่ทำไมรัฐบาลถึงไม่ทำ ข้อเท็จจริงรัฐบาลได้พูดคุยกันแล้ว และได้มอบอำนาจการจัดการให้กับผู้บัญชาการทหารบก และกองทัพภาคทุกภาค และเมื่อมีการจัดตั้งทีมไทยแลนด์ ก็สามารถทำงานได้มากขึ้น และเชื่อว่าปัญหาดีขึ้นเรื่อย ๆ
ขณะที่การปรับ ครม.ครั้งนี้มีรายชื่อนายพลมาเป็น รมว.กลาโหม นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ในส่วนของพรรคเพื่อไทยไม่ได้มีปัญหา ตั้งแต่ตนดำรงตำแหน่ง รมว.กลาโหม ก็ได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีว่าจะดึงทหารเข้ามาช่วยเพิ่มขึ้น หมายถึงตนอยากได้ทีมงานที่ทำให้งานแข็งแรงขึ้น และตอนนี้ตนยังไม่ได้ตั้งที่ปรึกษา หรือผู้ช่วยรัฐมนตรีเลย
ส่วนปัญหาเรื่องม็อบนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ม็อบต้องมีเหตุผล และประเทศกำลังเดินไปข้างหน้า และสิ่งที่กัมพูชาต้องการมากที่สุด คือ ความอ่อนแอภายในประเทศ การแสดงทัศนคติต่อรัฐบาลหรือนายกรัฐมนตรีก็สามารถทำได้ แต่อย่าไปหวังทำอะไรมากเกินเลย ซึ่งประเทศก็บอบช้ำมากแล้ว สถานการณ์ตอนนี้มีการรบกันระหว่างประเทศ มีการปิดอ่าวน้ำมันซึ่งผลส่งต่อประเทศอื่น ๆ จึงไม่อยากให้ม็อบเป็นปัจจัยหนึ่งมาซ้ำเติม
โดย ฐานิสร์ ทองนอก/ธนวัฏ เสือแย้ม/รัชดา คงขุนเทียน
✍ คอมเม้นต์ได้เฉพาะสมาชิกเท่านั้น (ช่องกรอกจะปรากฎเมื่อล็อกอินแล้ว)
✍ คอมเม้นต์จะปรากฎเมื่อได้รับอนุมัติจากผู้ดูและระบบ (มีระบบแจ้งเตือนเพื่อให้ผู้ดูแลระบบตรวจสอบโดยเร็ว)
✍ กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยความสุภาพ
}

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้น โปรดอ่าน นโยบายคุกกี้ ของเรา หรือ จัดการคุกกี้ ตามต้องการ